
ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังไทย หลังจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดโปงขบวนการล้มบอลไทย ที่มี 12 รายชื่อผู้เกี่ยวข้อง
เริ่มตั้งแต่แมตช์แรก 20 ก.ค.60 เป็นจุดเริ่มต้นของการสอบสวน เมื่อมี นายเก๋ นามสมมุติ ติดต่อผู้รักษาประตูทีมหนึ่งให้ล้มบอล แต่ผู้รักษาประตูรายนั้นไม่ยอมทำตาม และได้มาแจ้งกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอล
หลังจากนั้น ฝ่ายสอบสวนคอยจับตา นายเก๋ จนมีแมตช์วันที่ 26 ก.ค. นายเก๋ ร่วมกับ กลุ่มนายทุนได้ติดต่อว่าจ้าง กรรมการ 1 คน จำนวนเงิน 1 แสนบาท และจ้างนักเตะ 4 คน คนละ 2 แสนบาท รวมเป็นเงิน 9 แสนบาท โดยกำหนดผลการแข่งขันให้ทีมเป้าหมาย ชนะในครึ่งเวลาแรก ซึ่งผลเป็นไปตามที่กำหนดไว้ เมื่อทีมเป้าหมายนำ 1-0 ในครึ่งแรก
จากนั้นแมตช์วันที่ 10 ก.ย. นายเก๋ ร่วมกับ กลุ่มนายทุนได้ติดต่อว่าจ้าง ผู้รักษาประตู จำนวน 1 คน เป็นเงิน 3 แสน 5 หมื่นบาท โดยกำหนดให้มีการทำประตูเต็มเวลา 90 นาที รวมเกิน 3 ประตูขึ้นไป ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามเป้าหมาย เสมอ 2-2
แมตช์ที่ 3 เกิดขึ้นในแมตช์วันที่ 17 ก.ย. นายเก๋ ร่วมกับ กลุ่มนายทุนได้ติดต่อว่าจ้าง นักฟุตบอล 4 คน คนละ 2 แสนบาท รวมเป็น 8 แสนบาท รวมกับผู้รักษาประตูอีก 1 คน ที่อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีการทำประตูเต็มเวลา 90 นาที รวมเกิน 3 ประตูขึ้นไป ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามเป้าหมาย เสมอ 2-2
แมตช์สุดท้าย 23 ก.ย. นายเก๋ ร่วมกับ กลุ่มนายทุนได้ติดต่อว่าจ้าง นักฟุตบอล 4 คน ให้กำหนดผลประตูรวมครึ่งแรก 2 ลูกขึ้นไป แต่ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามเป้า เมื่อจบครึ่งแรกมีประตูเกิดขึ้นแค่ประตูเดียว
นั่นคือจำนวนแมตช์ทั้งหมดที่มีการเปิดเผยออกมา ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เผยว่า จริงๆ มีมากกว่านี้ แต่ยังรอหลักฐานที่แน่ชัดอีกครั้ง แล้วเราถึงจะออกหมายจับเพิ่มเติมได้